(17 ก.ย.) ที่โรงแรมเจริญธานี จังหวัดขอนแก่น กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.)จัดสัมมนา เรื่อง “การส่งเสริมการใช้อินเทอร์เน็ตและเกมเชิงบวกสำหรับเด็กและเยาวชน” พร้อมเปิดตัวโปรแกรมป้องกันเด็กติดเกมเชิงบวก หรือ “เกมเมอร์การ์ด” (Gamer Guard Program) ครั้งแรกของประเทศไทย โดยมีนายกฤษศญพงษ์ ศิริ ผู้ตรวจราชการวธ. นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธาน พร้อมทั้งมีผู้ประกอบการร้านเกม ผู้บริหารสถานศึกษา เครือข่ายภาคเอกชน เครือข่ายผู้ปกครอง เข้าร่วมงานครั้งนี้มากกว่า 200 คน
“จากสถิติการใช้อินเทอร์เน็ต พบว่า ประเทศไทยมีใช้อินเทอร์เน็ตเล่นเกม มากถึง 20 ล้านคน ติดลำดับ 9 ของเอเชีย โดยร้อยละ 70 ของเด็กและเยาวชน ใช้อินเทอร์เน็ต และเล่นเกมที่บ้าน ขณะที่ ผู้ปกครอง 42.3 ไม่มีการควบคุมการเล่นเกม เพราะไม่รู้จะควบคุมอย่างไร ที่น่าเป็นห่วงคือเด็กอายุ 6- 19 ปี เคยดูสื่อลามก สัดส่วนของเด็กและเยาวชน ร้อยละ 49.9 บอกว่าความรุนแรงในเกมเป็นเรื่องปกติธรรมดา นอกจากนี้ เกมออนไลน์ที่เด็กนิยมเล่น ร้อยละ 46.1 เป็นเกมต่อสู้ ฆ่าฟัน และเด็กที่มีพฤติกรรมติดเกม ร้อยละ 13.3 จะมีพฤติกรรม อยากเอาชนะ และมีพฤติกรรมก้าวร้าว” ผศ.ดร.พงษ์ชัย กล่าว
นายนันทยุทธ หะสิตะเวช ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาพัฒนาการเด็ก สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจากการเล่นเกมซึ่งปัจจุบันมีเกมถึงขั้น พัฒนาเกมที่สอนการมีเพศสัมพันธ์เป็นลำดับขั้น ซึ่งผู้เล่นสามารถเป็นผู้กำหนดการถอดเสื้อผ้าได้ด้วย ที่ร้ายไปกว่านั้น สามารถกำหนดได้ด้วยว่า จะถอดเสื้อผ้าลักษณะไหน เป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างมาก โดยส่งผลให้เด็กเลียนแบบ ทั้งนี้ตนได้เจอตัวอย่างเด็กที่เล่นเกมเหล่านี้ จนทำให้ไปมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรมาแล้ว อย่างไรก็ตาม เกมปัจจุบันเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองตามไม่ทัน เพราะมีการพัฒนาก้าวหน้าไปมาก จึงเป็นสิ่งที่น่าห่วงที่สุดในสังคมไทย
ด้านนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ผอ.สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมและประชาสัมพันธ์ วธ. กล่าวว่า วธ.ได้มอบโปรแกรมป้องกันเด็กติดเกมเชิงบวกให้แก่จังหวัดขอนแก่น ไม่ว่าผู้ประกอบการร้านเกม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้นำโปรแกรมดังกล่าวไปทดลองใช้ เนื่องจากวธ.เห็นว่า จังหวัดขอนแก่น เป็นเมืองใหญ่และมีร้านเกมอยู่มากกว่า 1,000 แห่ง ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการขอความร่วมมือในการใช้โปรแกรม พร้อมรับฟังความคิดเห็นว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร จากนั้นจะมีเวทีสัมมนาและรับฟังความคิดเห็นในกรุงเทพมหานครอีกครั้ง ทั้งนี้ วธ.ยังได้จัดทำการ์ตูนแอนิเมชัน ในการเผยแพร่ความรู้ แนะนำ และสร้างความตระหนักรู้ในการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสมด้วย จึงอยากเชิญชวนพ่อแม่ ผู้ปกครอง มีส่วนร่วมปกป้องคุ้มครองเด็กเพื่อลดการติดเกม โดยสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้ทางเว็บไซต์กระทรวงวัฒนธรรม www.c-me.go.th หรือที่ www.m-culture.go.th
ที่มา http://www.dailynews.co.th/education/233748
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น